ธุรกิจอาหารกับไอทีสำคัญอย่างไรในวิกฤตโควิด-19
โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน ทุกคนอยู่บ้านเพราะต้องกักตัว ต้องกักตุนอาหารแห้ง สบู่ แอลกอฮอล์ ไม่กล้าออกไปจับจ่ายใช้สอยเช่นเมื่อก่อน ทำเอาร้านค้าหลายร้านเงียบเหงาขาดทุนตามๆกัน โดยเฉพาะร้านที่ไม่มีหน้าร้านในโลกออนไลน์ คงจะเงียบเหงาเป็นพิเศษ
นี่แสดงให้เห็นว่าการทำธุรกิจ ไม่ควรทำแบบออฟไลน์เพียงอย่างเดียว โลกเดินทางมาถึงยุคดิจิตอลแล้ว ดังนั้น การค้าจึงขึ้นอยู่เทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย นอกจากจะต้องเปิดร้านแบบออฟไลน์แล้วยังต้องเปิดร้านแบบออนไลน์ในโลกอินเตอร์เน็ตเพื่อดึงลูกค้าเข้าร้านให้มากขึ้นด้วย
ตัวอย่างแรก ร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้านในอินเตอร์เน็ต หรือไม่ได้เข้าร่วมกับ Platform จำพวก Food Delivery เช่น Food Panda, Grab food และอื่นๆอีกมากมาย ร้านค้าที่ไม่ได้เข้าร่วมส่วนมากจะเป็นร้านที่ขายตามตลาดนัด ขายตามข้างทาง (Street food) ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยในไทย ทำให้พวกเขาเหล่านั้นต้องย่ำแย่เพราะโควิด-19 ทำพิษ
ขณะเดียวกันร้านที่มีการปรับตัวอยู่ก่อนแล้ว ส่วนมากจะเป็นร้านใหญ่ๆ ที่มีพื้นที่เปิดร้านเป็นของตัวเอง ร้านเหล่านี้ส่วนมากจะเข้าร่วมกับ Food Delivery เปิดเพจเฟซบุ๊ค มีการสร้าง Community ขึ้น จะทำให้มีลูกค้าขาประจำ และซื้อสินค้าอยู่เรื่อยๆ ประจวบเหมาะกับโควิด-19 ระบาดด้วยแล้วแม้ลูกค้าไม่สามารถมากินข้าวที่ร้านได้ แต่ลูกค้าของเขาก็สามารถสั่งอาหารผ่านระบบออนไลน์ได้ ทำให้สินค้าและบริการของร้านอาหารที่เข้าร่วมกับ Food Delivery ไม่ได้ขาดลูกค้าซะทีเดียว ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มแรก
นอกจากสองกลุ่มขั้นต้น มีร้านอาหารที่ไม่ถือว่าเปิดร้านซะทีเดียว เพราะเป็นร้านทำอาหารตามสั่งออเดอร์หน้าร้านออนไลน์ ค้าขายทางออนไลน์ทางเดียว กลุ่มนี้จะสบายตรงที่ไม่ต้องมานั่งเก็บร้าน หรือกังวลกับร้านมากนัก เพราะเปิดทำตามออเดอร์ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ารู้ว่าการทำอาหารในแต่ละขั้นตอนนั้นสะอาดปลอดภัยจริงๆ
จากสามกลุ่มตัวอย่างข้างต้น จะเห็นได้ว่าในสามกลุ่มตัวอย่างมีข้อดีข้อเสียต่างกัน กลุ่มตัวอย่างแรกจะเห็นว่าไม่เหมาะที่จะเป็นตัวเลือกทำในช่วงเวลานี้เมื่อเทียบกับอีกสองตัวอย่าง ดังนั้น ขอแนะนำสำหรับใครที่พอจะมีฝีมือทำอาหารอยู่บ้าง แต่งบน้อยไม่มีทุน ลองเลือกตัวอย่างที่สามทำค่ะ เป็นรายได้พิเศษที่พอจะยังชีพได้ในเวลานี้ ดีไม่ดีภายหลังผ่านวิกฤตแล้วคุณอาจสามารถต่อยอดธุรกิจร้านอาหารของคุณควบคู่ไปกับการทำเพจเฟซบุ๊คได้อย่างเชี่ยวชาญมากขึ้น ซึ่งเป็นทักษะที่หลายๆบริษัทต้องการในยุคดิจิตอลนี้ เรียกได้ว่าเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสอย่างแท้จริงเลยละ!